ถนนสายโรแมนติกของญี่ปุ่น

ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 40 นาทีบนทางหลวงหมายเลข 18 จากทาคาซากิ

หินสีดำขรุขระอันเป็นสภาพแวดล้อมที่ราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง ณ ที่นี้ก่อตัวขึ้นในปี 1783 เมื่อภูเขาอาซามะปะทุขึ้นอย่างรุนแรง เกิดเป็นธารลาวากว้าง 7 กิโลเมตร และยาวถึง 8 กิโลเมตร ในเอกสารบันทึกไว้ว่าการระเบิดทำให้ท้องฟ้ามืดมิดเป็นเวลาหลายวัน ธารแห่งการทำลายล้างนี้สร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้านเบื้องล่าง ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นที่ตั้งของอุทยานหิน ชื่อญี่ปุ่นของอุทยานคือสวนโอนิโอชิดาชิ หมายถึง "ยักษ์ผลักหินออก" พื้นที่นี้มีมอสส์และพืชอัลไพน์ขึ้นอยู่หลากหลายสายพันธุ์มานานปี

มีคอร์สเดินป่าให้เลือกทั้งแบบ 30, 40 หรือ 60 นาที ซึ่งจะคดเคี้ยวผ่านทิวทัศน์ที่งดงามหลายแห่ง สำหรับการเยี่ยมชมที่ใช้เวลาน้อยกว่านี้ ให้เดินวนไปที่วัดอาซามะยามะ คันนงโด ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1958 เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนั้น

คุณสามารถชมภูเขาอาซามะซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่และมองเห็นควันพวยพุ่งขึ้นได้ชัดเจนเป็นฉากหลัง โดยอุทยานแห่งชาติโจชินเอ็ตสึโคเง็นแผ่ตัวออกไปในทิศทางตรงกันข้าม

ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีบนทางหลวงภูมิภาคหมายเลข 59 และทางหลวงหมายเลข 292

จุดหมายต่อไปคือเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น วางแผนอย่างน้อยหนึ่งหรือสองคืนเพื่อชื่นชมทิวทัศน์ของ คุซัตสึ ออนเซ็น อย่างเต็มที่และปรับตัวเข้ากับจังหวะชีวิตที่ผ่อนคลายของที่นี่

เมืองที่งดงามราวกับภาพวาดนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่ยุบาตาเกะ ทุ่งน้ำร้อนที่ส่งกลิ่นกำมะถันเข้มข้น น้ำออนเซ็นที่ร้อนจัดและอุดมด้วยแร่ธาตุนี้จะไหลไปตามรางสู่โรงอาบน้ำที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งคุณสามารถลงแช่น้ำแบบดั้งเดิมของพื้นที่ได้ ตำนานท้องถิ่นอ้างว่าน้ำที่มีความเป็นกรดสูงและร้อนจัดนี้สามารถรักษาได้ทุกโรคยกเว้นโรคป่วยใจ คุซัตสึมีแหล่งน้ำพุร้อนอยู่ 6 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีแร่ธาตุแตกต่างกัน วิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาโรงอาบน้ำที่คุณชื่นชอบคือการไปลองแช่น้ำที่โรงอาบน้ำต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด เพราะแต่ละแห่งต่างก็มีเสน่ห์ของตัวเอง

ประเพณีท้องถิ่นที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างหนึ่งคือ “ยุโมมิ” การแสดงพิธีกวนน้ำที่จัดขึ้นที่ เน็ตสึ โนะ ยุ หลายครั้งต่อวัน การแสดงจะเลียนแบบวิธีการลดอุณหภูมิของน้ำที่ใช้มาตั้งแต่สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) โดยการกวนน้ำด้วยไม้พาย และจะขับร้องเพลงพื้นบ้านและเต้นรำแบบดั้งเดิมไปพร้อมกับการแสดง ภาพเช่นนี้เป็นภาพที่จะพลาดไม่ได้เมื่อคุณอยู่ในคุซัตสึ และคุณจะได้เห็นภาพนี้ไปทั่วเมืองผ่านของที่ระลึกต่าง ๆ และแม้แต่ฝาท่อระบายน้ำในเมือง

ยามเย็นของคุซัตสึนั้นค่อนข้างมีชีวิตชีวา ไปเยือนเน็ตสึ โนะ ยุ เพื่อชมการแสดงรากุโงะแบบดั้งเดิมที่นักแสดงจะนั่งลงบนเวทีและใช้อุปกรณ์ประกอบฉากเพียงไม่กี่ชิ้นในการเล่าเรื่องตลก แช่เท้าในออนเซ็นแช่เท้ากลางแจ้งที่มีแสงไฟส่องสว่างที่ สวนไซโนะคาวาระ หรือใช้บริการร้านอาหารอิซากายะบรรยากาศสบาย ๆ ในใจกลางเมือง

ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงบนทางหลวงภูมิภาคหมายเลข 55 และทางหลวงหมายเลข 353

ชิมะ ออนเซ็น เป็นที่รู้จักจากโรงแรมแบบเรียวกังที่ลือกันว่าเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์แอนิเมชันยอดฮิตของ Studio Ghibli เรื่อง “Spirited Away”

เมืองเงียบสงบแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะจะงดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั่วคราว แล้วเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติโดยรอบแทน ในเดือนที่อากาศอบอุ่น ไปที่ ทะเลสาบโอคุชิมะ หรือ ทะเลสาบชิมะ เพื่อชื่นชมน้ำสีฟ้าอันโดดเด่นที่คนในพื้นที่เรียกว่า "ชิมะบลู" ปลุกเร้าความตื่นตัวด้วยทัวร์พายเรือแคนูหรือทัวร์เล่นบอร์ดยืนพายบนผืนน้ำ

พักผ่อนยามเย็นด้วยการลงแช่น้ำในออนเซ็นอันแสนผ่อนคลายของชิมะ ในน้ำอุดมไปด้วยโซเดียมคลอไรด์ แคลเซียมคลอไรด์ และซัลเฟตไอออน ซึ่งกล่าวกันว่ามีคุณสมบัติต้านริ้วรอยและช่วยปลอบประโลมผิว ยามเย็นอันเงียบสงบในชิมะจะช่วยให้คุณมีโอกาสเพลิดเพลินไปกับความสงบและการต้อนรับของเรียวกังที่คุณเข้าพัก

ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีบนทางหลวงหมายเลข 353 และ 145 จากชิมะ

หนึ่งในจุดที่โรแมนติกและน่าประหลาดใจที่สุดตลอดเส้นทางนี้คือ ปราสาทแบบสกอตแลนด์แท้ ๆ ปราสาท Lockheart แห่งนี้สร้างขึ้นใกล้กับเอดินบะระในปี 1829 ก่อนที่จะถูกรื้อถอนและขนย้ายมายังกุนมะ ซึ่งทำการก่อสร้างขึ้นใหม่ในปี 1993 ปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานยอดนิยม โดยมีโบสถ์อยู่ภายในและจุดถ่ายรูปมากมายรอบ ๆ บริเวณ มีธีมที่มีกลิ่นอายของราชวงศ์และความเป็นสหราชอาณาจักรอยู่ทั่วปราสาท ในบรรดานิทรรศการที่หลากหลาย คุณจะได้พบกับเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายแสนสนุก รวมถึงสิ่งของอื่น ๆ ที่เป็นของราชวงศ์อังกฤษและตำนานฮอลลีวูดอย่าง Audrey Hepburn และ Marilyn Monroe ลองสัมผัสประสบการณ์เป็นเจ้าหญิงในปราสาท ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเลือกสวมชุดเจ้าหญิงที่มีให้เลือกกว่า 150 ชุด รวมถึงชุดทักซิโด้สำหรับผู้ชายเพื่อสวมใส่และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีบนทางหลวงหมายเลข 120

แวะพักใน โออิงามิ ออนเซ็น เพื่อไปเยือนออนเซ็นสาธารณะของหมู่บ้านบนไหล่เขา ออนเซ็นกลางแจ้ง (โรเท็นบุโระ) บางแห่งของที่นี่มองเห็นหุบเขาคาตาชินะและแม่น้ำที่เชี่ยวกรากเบื้องล่าง น้ำอุ่นมีอุณหภูมิที่สมบูรณ์แบบสำหรับการแช่ตัวนาน ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอ่างที่มีฟองอากาศ ซึ่งจะช่วยให้ดื่มด่ำได้มากยิ่งขึ้น

ใช้เวลาเดินทาง 10 นาทีบนทางหลวงหมายเลข 120

ใช้เวลาขับรถไม่นานไปตามหุบเขาคาตาชินะก็จะพบกับ น้ำตกฟุคิวาเระ น้ำตกแห่งนี้จะช่วยเพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับจุดสิ้นสุดถนนสายโรแมนติกของญี่ปุ่นในช่วงที่ทอดผ่านกุนมะ เดินไปตามพื้นหินที่สูงต่ำไม่เท่ากันเพื่อชมน้ำตกสูง 7 เมตร กว้าง 30 เมตรแห่งนี้อย่างใกล้ชิด เส้นทางสั้น ๆ จะพาคุณเดินลึกเข้าไปตามหุบเขา ซึ่งคุณสามารถชมหินเรียบลื่นที่มีรูปร่างไม่ธรรมดาอันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำที่ตกกระทบนานนับพันปี