กุนมะอันแสนงดงาม คู่มือการถ่ายภาพและสถานที่ถ่ายรูปที่ยอดเยี่ยมที่สุดในกุนมะ

สีสันที่สดใส งานศิลปะ และลักษณะการตกแต่ง เช่น ภาพจิตรกรรมและรูปปั้นเก๋ไก๋พร้อมดึงดูดสายตาเมื่อคุณออกสำรวจบริเวณวัด วัดโฮโทคุจิ มีชื่อเสียงเป็นพิเศษเรื่องพื้นในวิหารหลักที่มีผิวเงาราวกับกระจก ซึ่งจะสะท้อนทัศนียภาพอันประกอบด้วยต้นเมเปิลและภูเขา และจะเปิดให้เข้าชมในช่วงกิจกรรมตามฤดูกาลเท่านั้น ภาพที่สะท้อนในฤดูใบไม้ร่วงนั้นงดงามจนแทบหยุดหายใจ และเป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ให้เวลาตัวเองค้นหามุมที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้ภาพถ่ายทิวทัศน์ที่สะท้อนบนพื้น โปรดทราบว่าในบริเวณนี้ไม่อนุญาตให้ใช้ขาตั้งกล้องทั้งแบบสามขาและแบบขาเดียว เยี่ยมชมวัดตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อประตูเปิด หรือลองมาเยี่ยมชมวัดในฤดูใบไม้ผลิยามเมื่อดอกโบตั๋นผลิบานทั่วบริเวณ ประมาณหกสัปดาห์ในช่วงฤดูร้อน วัดจะทำการแขวนกระดิ่งลมที่ทำจากแก้ว เกิดเป็นอุโมงค์หลากสีที่ส่งเสียงไพเราะกังวานซึ่งดูสวยงามเหมาะแก่การเก็บภาพบรรยากาศ

เข้าพักในห้องที่ออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ซึ่งตกแต่งด้วยงานศิลปะร่วมสมัย หรือหนึ่งในสี่ห้องพิเศษที่ออกแบบโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น Leandro Erlich ที่ Shiroiya Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และมีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี ทุกซอกมุมของโรงแรมเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครและควรค่าแก่การถ่ายภาพ ไม่เพียงแต่ศิลปะและสถาปัตยกรรมเท่านั้นที่ควรค่าแก่การบันทึกภาพ แต่ยังรวมถึงอาหารด้วย เชฟของโรงแรมใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อรังสรรค์อาหารอย่างมีศิลปะ นอกจากนี้ยังมีร้านขนมหวาน ร้านเบเกอรี่ ร้านเอาต์เล็ตสุดเก๋ของแบรนด์ Blue Bottle Coffee บาร์ที่เปิดเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ ห้องซาวน่าแบบฟินแลนด์ และห้องซาวน่าไอน้ำสำหรับฟื้นฟูจิตใจและร่างกาย

น้ำร้อนใต้พิภพที่ยุบาตาเกะในใจกลาง คุซัตสึ แห่งนี้บางครั้งก็เป็นสีเขียวน้ำนม บางครั้งก็เป็นสีเขียวมรกต ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการถ่ายภาพมากที่สุดในกุนมะ พักค้างคืนเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่ใกล้ชิด และถ่ายภาพยุบาตาเกะที่ส่องสว่างด้วยแสงไฟหลากสี ตั้งแต่สีส้มอันอบอุ่นไปจนถึงสีม่วงเข้ม ไอน้ำที่ลอยขึ้นเหนือผิวน้ำจะสว่างไสวด้วยแสงไฟ และแสงไฟอ่อน ๆ จากร้านค้าสไตล์ย้อนยุคและที่พักที่รายล้อมจัตุรัสก็ช่วยสร้างบรรยากาศ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส จะมีการวางต้นสนขนาดใหญ่และประดับไฟเพื่อสร้าง ภาพอันน่าอัศจรรย์ใจ

ตั้งอยู่ระหว่างยอด ภูเขาอาคางิ ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งนักเดินป่าและช่างภาพ ไหล่เขาที่มีป่าไม้ขึ้นอย่างหนาแน่นและใบของต้นไม้ริมทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใสในฤดูใบไม้ร่วง ตรงกันข้ามกับสภาพอากาศแจ่มใสและท้องฟ้าสีครามของกุนมะในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสีนี้อาจเป็นช่วงเวลาสำหรับการมาเยี่ยมชมที่ได้รับความนิยมที่สุดของปี เดินขึ้นเขาจากทะเลสาบไปยังยอดภูเขาอาคางิในปลายฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อนเพื่อชมทุ่งดอกสึสึจิที่กำลังบานสะพรั่ง หากมาท่องเที่ยวในฤดูหนาว ท่านอาจจะได้เห็นปรากฏการณ์ฟองอากาศในแผ่นน้ำแข็งอันน่าอัศจรรย์บนผิวทะเลสาบ ซึ่งพบได้แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ หลังผิวทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็งและก่อนที่หิมะจะทับถมจนมองไม่เห็น ในตอนเช้าของช่วงที่อากาศหนาวเย็นที่สุด ท่านอาจพบกับน้ำค้างแข็งที่ส่องประกายอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้รอบ ๆ ชายฝั่งและต้นไม้ที่อยู่ไกลออกไป

Sekizenkan เป็นโรงแรมแบบเรียวกังที่มีเสน่ห์ซึ่งตั้งอยู่ใน ชิมะ ออนเซ็น แหล่งน้ำพุร้อนขนาดเล็กในเขตอุทยานแห่งชาติโจชินเอ็ตสึโคเง็น โรงแรมนี้มีอายุถึง 300 ปี และนักท่องเที่ยวจำนวนมากมักจะหยุดยืนที่สะพานสีแดงที่ทอดยาวไปสู่โรงแรมเพื่อถ่ายภาพด้านนอกของอาคารแบบดั้งเดิมและธรรมชาติโดยรอบ ภาพที่เห็นจากสะพานนี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของความงามของเรียวกังและโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนอื่น ๆ ในชิมะ ออนเซ็น ผสมผสานการเข้าพักในชิมะ ออนเซ็นกับการสำรวจแม่น้ำชิมะ เมื่อเดินจากแหล่งน้ำพุร้อนไปที่ปลายน้ำ ท่านจะพบกับน้ำใสดุจคริสตัลที่ไหลมาขังอยู่ในแอ่งน้ำที่มีขนาดและความลึกต่างกัน อีกทั้งยังขนาบด้วยโขดหินสูงตระหง่าน ในวันที่อากาศแจ่มใส แอ่งน้ำของ กุมภลักษณ์ชิมะ จะมีสีเทอร์ควอยซ์แบบขุ่น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพ

หุบเขาทาคาสึโดะ เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับการเก็บภาพสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วงที่งดงามของกุนมะ ไม่ว่าท่านจะมาเยือนในฤดูกาลใด หนึ่งในจุดถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือสะพานคนเดินฮาเนตากิซึ่งทอดยาวข้ามผ่านหุบเขา มุ่งหน้าสู่ใจกลางสะพานเพื่อเก็บภาพทั้งต้นน้ำและปลายน้ำของหุบเขาในภาพเดียว หากต้องการทิวทัศน์ที่แตกต่างออกไป ให้เดินลงจากสะพานไปตามทางเท้าและเข้าสู่หุบเขา หรือลองนั่งหนึ่งในขบวนรถไฟย้อนยุคที่วิ่งรอบหุบเขาอย่าง Watarase Keikoku Railway

งานก่ออิฐและซุ้มโค้งที่สง่างามของ สะพานรถไฟอุซุอิ หมายเลข 3 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟร้างนี้ ดูสวยงามมากเมื่อถ่ายจากด้านล่าง หาเพื่อนสักคนมายืนข้างหน้าตอนถ่ายภาพสะพานเพื่อสัมผัสขนาดที่แท้จริงของสะพานแห่งนี้ ที่นี่เป็นสะพานอิฐโค้งที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีความสูงถึง 31 เมตร เดินไปตามเส้นทางรถไฟร้างเพื่อถ่ายภาพแนวดิสโทเปียนของอุโมงค์ร้างและรางรถไฟที่ขึ้นสนิม หากท่านเข้าร่วม ทัวร์เดินชม ที่จัดขึ้น คุณจะได้ค้นพบจุดถ่ายรูปอื่น ๆ และพื้นที่ที่ปกติไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม

น้ำตก ที่ไหลลงสู่เบื้องล่างและสะพานแขวนสีแดงที่ทอดยาวไปยังน้ำตกคอยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในเทือกเขาลึกทางทิศตะวันออกของกุนมะ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าชมคือฤดูใบไม้ร่วงซึ่งจะล้อมรอบไปด้วยสีสันอันสดใส ในฤดูหนาวคุณจะสามารถถ่ายภาพน้ำตกที่รายล้อมไปด้วยหิมะ (โปรดเดินบนสะพานที่สูงชันอย่างระมัดระวัง) หากต้องการเข้าชมช่วงที่น้ำตกไหลลงอย่างทรงพลังที่สุด ให้มาตอนช่วงต้นฤดูร้อนซึ่งมีปริมาณน้ำฝนสูงสุด แต่ต้องระวังเส้นทางเดินที่ลื่น ใช้เวลาทั้งวันในการเดินป่าจากสถานี Konaka ไปยังน้ำตก (ประมาณ 7 กิโลเมตร) เส้นทางนี้จะนำไปสู่ทางเดินอันงดงามที่พาเข้าสู่ภูเขา และในช่วงเดือนเมษายน คุณสามารถชมต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์ได้ตลอดเส้นทาง

กระเช้าลอยฟ้านำพานักท่องเที่ยวขึ้นสู่ที่ราบสูงเท็นจินไดระบน ภูเขาทานิงาวะ เพื่อสัมผัสกับ กิจกรรมบนหิมะ ในฤดูหนาว การเดินป่า ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน การชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงการดูดาวในวันแสนพิเศษ ซึ่งโดยปกติจะเป็นวันในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่มีมลภาวะทางแสงน้อยมาก ทำให้สามารถมองเห็นดาวที่อยู่ห่างไกลและกลุ่มดาวฤกษ์ด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจนจากที่ราบสูง นำขาตั้งกล้อง ตัวลั่นชัตเตอร์จากระยะไกล และเลนส์มุมกว้างที่จับภาพเร็วเพื่อเก็บภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว กิจกรรมพิเศษของท้องฟ้ายามค่ำคืนบางกิจกรรมยังรวมถึงการแสดงฉายแสงดิจิทัลลงบนพื้นและการจัดวางงานศิลปะ

ขั้นบันไดหินที่ทอดยาวเข้าสู่ใจกลาง อิคาโฮะ ออนเซ็น นี้ขนาบไปด้วยร้านค้าย้อนยุค บ้านเรือน และที่พักแบบดั้งเดิม ทำให้ได้ภาพทิวทัศน์ท้องถนนของเมืองน้ำพุร้อนที่สวยงาม เดินจากด้านบนสุดของบันไดหินไปไม่ไกลก็จะพบกับสะพานไม้โค้งอันงดงามที่มีราวบันไดสีแดง ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นเมเปิล สะพานคาจิกะ แห่งนี้อาจเป็นแหล่งออนเซ็นในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ในฤดูร้อนท่านจะมีใบไม้เขียวขจีโดยรอบเป็นฉากหลังภาพถ่าย และในฤดูใบไม้ร่วงเฉดสีของใบไม้นั้นจะเปลี่ยนไปจนแทบจะกลืนไปกับสีของราวบันได ในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง สะพานคาจิกะมักจะประดับไฟส่องสว่างเป็นเวลาราวสองสามชั่วโมงในช่วงพลบค่ำ ทำให้นักท่องเที่ยวเก็บภาพสวย ๆ ได้มากขึ้น